‘ประยุทธ์’ ปลื้มหลัง ไทย เป็นอันดับหนึ่ง เหมาะ Workation ที่สุด

‘ประยุทธ์’ ปลื้มหลัง ไทย เป็นอันดับหนึ่ง เหมาะ Workation ที่สุด

ธนกร เผย ประยุทธ์ ปลื้มหลัง ไทย ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่เหมาะกับการ Workation หรือการทำงานและพักผ่อนมากที่สุด นำหน้าลิสบอน และ บาร์เซโลนา นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทราบเรื่องน่ายินดีที่กรุงเทพมหานครได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่เหมาะกับการทำงานและพักผ่อนที่สุดในโลก (The Best Cities for a Workation 2021) ตามมาด้วยอันดับ 2 กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย อันดับ 3 กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส อันดับ 4 เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน อันดับ 5 กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ร่วมกับกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา อันดับ 7 เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย อันดับ 8 กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี อันดับ 9 กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย และอันดับร่วมที่ 10 จังหวัดภูเก็ตและเชียงใหม่ ทั้งนี้ จากการจัดลำดับของ Holidu ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับการค้นหาสถานที่พักผ่อนของเยอรมนี

โดยระบุว่ากรุงเทพฯ ถือเป็นเมืองที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเป็นพื้นที่ในการทำงาน 

และยังเป็นเมืองที่ค่าใช้จ่ายในการทำงานอยู่ในเกณฑ์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และหากดูในแง่ของการเป็นสถานที่พักผ่อน กรุงเทพฯ เป็นเมืองจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทุกระดับและทุกไลฟ์สไตล์สามารถสนุกเพลิดเพลินกับกิจกรรมท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ได้ไม่สิ้นสุด ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อาทิ วัดและพระราชวัง หรือสถานที่เลือกซื้อสิ่งของในห้างสรรพสินค้ากลางเมืองไปจนถึงตลาดน้ำในท้องถิ่น

นายธนกร กล่าวว่า เหตุผลที่กรุงเทพมหานครได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่เหมาะกับการทำงานและพักผ่อนที่สุดในโลก มาจากการพิจารณาจากหลักเกณฑ์ในการจัดลำดับทั้งเรื่องความเร็วของสัญญาณ WiFi จำนวนพื้นที่สาธารณะในการทำงานหรือ Co-working space ค่าใช้จ่ายรายเดือนของที่พัก ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รวมไปถึงค่าเฉลี่ยจำนวนชั่วโมงที่แดดออกต่อวัน นอกจากนี้ Holidu ยังระบุว่า ในกรุงเทพฯ มีคนส่วนใหญ่ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เป็นเมืองที่ดึงดูดนักลงทุนและบริษัทต่างชาติจำนวนมาก จึงทำให้เป็นเมืองที่สามารถหาสถานที่พักอาศัยสำหรับนักธุรกิจและผู้ประกอบการได้อย่างสะดวกสบาย

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมไปถึงพี่น้องประชาชนทุกคนที่ช่วยกันทำให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดสำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่มองหาสถานที่ทำงานในระยะไกลในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก รัฐบาลยืนยันความพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยทางด้านสาธารณสุขและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ทั้งคนไทย นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว ให้สามารถใช้ชีวิต ดำเนินธุรกิจ และท่องเที่ยวในประเทศไทยได้อย่างมั่นใจและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

‘ประยุทธ์’ เผยที่ผ่านมายังไม่ได้ เซ็น MOU กับชาว ‘จะนะ’ ชี้ต้องผ่าน ครม. ก่อน

ประยุทธ์ ชี้แจงยังไม่ได้เซ็น MOU กับชาว จะนะ ชี้กว่าจะเซ็น MOU  ได้ต้องผ่านความเห็นชอบ ครม. ก่อน ยึดฟังเสียง ปชช. ในพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ออกมากล่าวถึงโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ที่กลับมาเป็นกระแสขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้สลายการชุมนุมของกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา

โดยนายกฯระบุว่า การลงพื้นที่ของตัวแทนรัฐบาลเมื่อครั้งที่แล้ว เป็นการไปหาข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้เป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งครม.เพียงแต่รับทราบว่าประชาชนต้องการอะไร อย่างเดียวก็คือเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งอยู่ในกระบวนการจะต้องใช้กฎหมาย และใช้เวลาอีกนานพอสมควร

ทุกอย่างต้องมีการทำประชาพิจารณ์ทั้งหมดให้ถูกต้อง ถ้าประชาชนเห็นชอบก็ทำได้ ถ้าประชาชนไม่เห็นชอบ ก็อยู่อย่างเดิม รัฐบาลมีแนวนโยบายแต่จะทำได้หรือไม่ได้ ใครมีผลประโยชน์ทับซ้อนก็ต้องไปว่ากันตรงนั้น ทำทุกอย่างให้มันถูกกฏหมาย

นายกฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ใช่การทำเอ็มโอยู เป็นแค่การรับข้อเรียกร้อง ซึ่งเอ็มโออยู่จะต้องผ่านความเห็นชอบของครม. หลายเดือนที่ผ่านมาครม.มีมติเพื่อทราบเท่านั้น ซึ่งต้องติดตามว่าปัญหาอยู่ตรงไหน แต่ทั้งหมดติดอยู่ที่การทำประชาพิจารณ์ ทั้งเรื่องการปรับสีของพื้นที่ ทุกอย่างจะต้องยึดประชาชนทั้งหมด ไม่เช่นนั้นแก้ปัญหาไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ต้องไปทบทวนให้ถูกต้องตามที่ประชาชนต้องการ และความถูกต้องในแง่ของกฎหมาย อยู่ดีๆ กรมผังเมืองจะไปปรับเปลี่ยนไม่ได้ ถ้าประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นชอบ ทุกอย่างก็ทำไม่ได้ ก็ไปคิดเอากันแล้วกันว่าอะไรเกิดประโยชน์ อะไรไม่เกิดประโยชน์ อะไรได้มากได้น้อย พื้นที่ด้วย เพราะเป็นผลประโยชน์โดยรวมของคนในพื้นที่

ธนกร เผย ประยุทธ์ ปลื้ม ยอดผู้ติดเชื้อโควิด ต่ำสุดในรอบสามเดือน ขอประชาชนยึดมั่นมาตรการป้องกันโควิด เชื่อรับมือได้ทุกสายพันธุ์ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พอใจภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 ของไทย ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง มีผู้ติดเชื้อใหม่ 3,618 ราย ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

ในส่วนของ ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน ณ วันที่ 8 ธ.ค. ยอดฉีดทั่วประเทศสะสม 95,381,559 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 49,201,590 ราย สัดส่วนต่อประชากรร้อยละ 74.33 เข็มที่ 2 จำนวน 42,434,607 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 3,723,724 ราย และเชิญชวนสมาชิกในครอบครัวช่วยกันสร้างแรงจูงใจให้สมาชิกที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข้ารับการฉีด

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป